พระครูภัทรกิจวิบูล (หลวงพ่อก้าน ภทฺทโก)
อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยใหญ่ เกจิดังของตำบลห้วยใหญ่
อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี สังขารท่านไม่เน่าเปลื่อยอยู่ในโรงแก้วจนถึงทุกวันนี้ หลวงพ่อก้านท่านพัฒนาวัดห้วยใหญ่จนเจริญรุ่งเรือง และช่วยสร้างวัดอื่นๆ เช่น วัดนาจอมเทียน , วัดทุ่งละหาร และ วัดชากแง้ว ท่านเป็นผู้ริเริ่มสร้างถนนนาจอมเทียนไปถึงถนนบ้านบึงเป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร ท่านเป็นพระนักปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และพระนักพัฒนาที่น่ายกยอง
หลวงพ่อก้าน มีชื่อเดิมว่า " ก้าน " นามสกุล " เจริญคลัง " ท่านเป็นคนจังหวัดชลบุรี เกิดที่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2462 ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม 13 ค่ำ ปีมะแม โยมบิดาชื่อ เส็ง เกิดที่เมืองจีน โยมแม่ชื่อ นิด นามสกุล เจริญคลัง ครอบครัวมีอาชีพทำนา ชีวิตในวัยเยาว์นั้นท่านเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ชอบไปใส่บาตรพระกับผู้ใหญ่เสมอๆ
บรรพชา
เมื่ออายุได้ 14 ปี ท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดห้วยใหญ่ ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ทั้งนี้ท่านตั้งใจที่จะศึกษาหาความรู้และศึกษาเล่าเรียน เขียนอ่านทั้งภาษาไทยและภาษาขอม และอีกทั้งอักขระต่างๆ จนอ่านออกเขียนได้ดี
อุปสมบท
เมื่อท่านอายุได้ 20 ปี หลวงพ่อก้านท่านเล่าว่า พอท่านสึกจากสามเณรได้ 5 นาที ท่านก็อุปสมบทเป็นพระภิกษุเลย โดยมี
- พระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ลอย โหนแหยม เจ้าอาวาสรูปที่ 8 ของวัดห้วยใหญ่
- พระกรรมวาจาจารย์ พระสมุห์เข้ม วัดช่องลม (นาเกลือ) (ปัจจุบันเป็นนิกาย ธรรมยุต) และ พระอาจารย์กลับ วัดสันติธาราวาส (วัดทุ่งละหาน)
- พระอนุสาวนาจารย์ พระอาจารย์เราะ
ณ อุโบสถวัดห้วยใหญ่ ได้รับฉายาในทางพุทธศาสนาว่า " ภทฺทโก "
หลังจากที่หลวงพ่อก้านท่านได้บวชแล้ว ท่านก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดห้วยใหญ่ เพื่อตั้งใจศึกษาอบรมพระปริยัติธรรม พยายามประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มุ่งปฏิบัติหน้าที่ของตนให้บริบูรณ์ตามที่ได้บวชอยู่ในพระพุทธศาสนา หลวงพ่อก้านศึกษาจนจบนักธรรมชั้นตรี ครั้งพอเข้าพรรษาที่ 3 ท่านก็สอบได้นักธรรมชั้นโท และพรรษาที่ 4 ท่านสอบได้นักธรรมชั้นเอกตามลำดับ หลังจากที่สอบนักธรรมชั้นเอกได้แล้ว
การออกธุดงค์
สะท้อนให้เห็นวัตรปฏิบัติของท่านที่เข้มข้น มีหลักฐานการจาริกธุดงค์ที่น่าจะเชื่อได้ว่าช่วงเวลาการออกธุดงค์ครั้งสำคัญๆ มีอยู่อย่างน้อยก็ 2 ครั้ง
ปี 2484 การธุดงค์ครั้งแรก คือ ตอนที่ท่านผ่านการเป็นพระบวชใหม่ เวลาดังกล่าวนี้หลวงพ่อก้านเล่าให้ฟังว่า เพียงพรรษาที่ 2 ท่านก็ได้ใช้เวลาหาประสบการณ์ด้านธุดงค์ด้วยการจาริกธุดงค์ไปทางภาคอีสาน ท่านได้มีโอกาสนมัสการปูชนีสถานและปูชนีวัตถุสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น พระพุทธบาท พระพุทธฉาย ที่สระบุรีและมุ่งหน้าสู่นครราชสีมา มุ่งหน้าไปจังหวัดอุดรธานี หนองคาย และข้ามไปยังประเทศลาว ซึ่งตลอดเวลาของการธุดงค์ ท่านได้มีโอกาสศึกษาธรรมและสรรพวิชาจากพระอาจารย์มากมาย หลังจากนั้นท่านก็เดินทางกลับมายังวัดห้วยใหญ่
ฝากตัวเป็นศิษย์
หลวงพ่อก้านท่านได้ศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อหอม
วัดชากหมาก จ.ระยอง ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในอดีตถึงแม้ว่าท่านจะละสังขารไปแล้ว แต่ชื่อเสียงและสิ่งมงคลของท่านยังเป็นที่นิยมบูชากันจวบจนทุกวันนี้ หลวงพ่อก้านได้ศึกษาสนทนาธรรม ประกอบกับการได้ศึกษาอบรมทางด้านจิตภาวนาจากหลวงพ่อหอม ทำให้หลวงพ่อก้านเกิดศรัทธาเชื่อมั่นใฝ่หาหนทางแห่งมรรค
วิทยฐานะ
พ.ศ. (ไม่ทราบปี) สอบได้นักธรรม ตรี - วัดห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง
พ.ศ. 2485 อายุ 23 พรรษาที่ 3 สอบได้นักธรรม โท - วัดห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง
พ.ศ. 2486 อายุ 24 พรรษาที่ 4 สอบได้นักธรรม เอก - วัดห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง
งานปกครอง
พ.ศ. - เป็นเจ้าอาวาสวัดห้วยใหญ่
พ.ศ. - เป็นพระกรรมวาจารย์
พ.ศ. - เป็นพระอุปัชฌาย์
งานพัฒนา
พ.ศ. - หลวงพ่อก้านท่านเล่าว่า วัดห้วยใหญ่ในอดีตนั้นก่อนที่ท่านจะเป็นเจ้าอาวาสมีโบสถ์อยู่หนึ่งหลัง สภาพเป็นฝาไม้หลังคามุงกระเบื้อง ท่านจึงได้รื้อทิ้งและได้สร้างขึ้นใหม่ เงินทุกบาททุกสตางค์บรรดาญาติโยมมาทำบุญร่วมกันสร้าง และได้สร้างศาลาอเนกประสงค์อีกหนึ่งหลัง และพร้อมกับสร้างเมรุและสร้างโกดังเก็บศพ รวมทั้งหอระฆังและสร้างโรงครัว หลวงพ่อก้านพัฒนาวัดห้วยใหญ่จากวัดที่รกร้างมาเป็นวัดที่เจริญสวยงามดังที่เห็นซึ่งล้วนแต่เป็นผลงานของท่านทั้งสิ้น
พ.ศ. - หลวงพ่อก้านท่านสร้างวัดมาแล้วหลายวัด ไม่ว่าจะเป็นวัดนาจอมเทียน วัดทุ่งละหาร และวัดชากแง้ว ซึ่งเป็นวัดที่หลวงพ่อก้านและศรัทธาญาติโยมได้ร่วมกันช่วยสร้างมาทั้งสิ้น
พ.ศ. - หลวงพ่อก้าน ท่านก็เห็นว่า ถนนหนทางในด้านการเดินทางไปมานั้นยังลำบาก ท่านจึงได้คิดที่จะพัฒนาโดยได้รับความร่วมมือจากศรัทธาญาติโยมร่วมกันสร้างถนนจาก นาจอมเทียนไปจนถึงบ้านบึง ซึ่งนับเป็นระยะทางถึง 8 กิโลเมตรจนสำเร็จลุล่วงด้วยดี และได้ใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาตราบจนถึงทุกวันนี้
พ.ศ. 2494 แต่ท่านก็ไม่ยอมหยุดนิ่ง ท่านมีความคิดที่จะเผยแพร่พุทธศาสนาให้กว้างไกลยิ่งขึ้น ท่านจึงได้ช่วยสร้าง " วัดเทพบุตร " และวัดแห่งนี้หลวงพ่อเป็นผู้ตั้งชื่อวัดให้ ซึ่งหลวงพ่อก้านเล่าให้ฟังว่า เดิมทีวัดแห่งนี้ได้มีโยมอายุมากแล้วชื่อ " พรหม " นามสกุล " เกตุจรูญ " เป็นผู้ริเริ่มสร้างวัด ก็ปรึกษากับหลวงพ่อก้านว่า ไม่รู้จะตั้งชื่อวัดนี้ว่ายังไงดี หลวงพ่อก้านท่านก็บอกกับโยมพรหมว่า ในเมื่อโยมชื่อพรหม อาตมาก็คิดว่าวัดแห่งนี้ควรจะตั้งชื่อว่า " เทพบุตร " ก็แล้วกัน จึงเป็นอันว่า วัดแห่งนี้จึงได้ชื่อว่าเทพบุตรตราบเท่าทุกวันนี้
มรณภาพ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2549 นาวาเอกหญิงอุไรวรรณ ต่อประดิษฐ์ ผู้อำนวยการกองการพยาบาล โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี แจ้งว่าพระครูภัทรกิจวิบูล (หลวงพ่อก้าน ภัทโก) อีดตเจ้าอาวาสวัดห้วยใหญ่ มรณภาพ หลังเข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2549 ที่ผ่านมา
พระครูภัทรกิจวิบูล (หลวงพ่อก้าน ภักโก) ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2549 ด้วยโรคชรา เมื่อเวลา 00.30 น. สิริอายุ 86 ปี พรรษาที่ 67